วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

School of Saatchi or X Factor?


ภาพ: BBC

Charles Saatchi อาร์ต คอเลคเตอร์ เเละเจ้าของเเกลลอรี่ Saatchi Saatchi ในลอนดอน ผู้ค้นพบเเละเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของ ศิลปินอังกฤษชื่อดังอย่าง Tracey Emin (หนึ่งในกรรมการตัดสินของรายการ) หรือ Damien Hirst ลุกขึ้นมาทำ Reality TV Show ให้กับ BBC 2 โดยให้ศิลปินโนเนม 6 คน ที่ถูกเลือกให้ มากิน อยู่ เเละสร้างสรรค์ งานศิลปะ ในสตูโอ ย่่าน East London เเละทำงานตามโจทย์ที่กำหนด รางวัลของผู้ชนะเป็นสตูโอสำหรับทำงานฟรี 3 ปี เเละพื้นที่เเสดงนิทรรศการที่ The State Hermitage Museum in St Petersburg ประเทศรัสเซีย

เนื้อหาคงไม่เร้าใจ หรือมีดราม่า เท่า Project Runway หรือ Big Brother เเต่อย่างน้อยก็เป็นความพยายามที่ดีของคนทำงานศิลปะที่มักจะมีภาพลักษณ์ที่เข้าถึงยาก ที่จะให้คนทั่วไปได้เห็นถึงชีวิต เเละวิธีการทำงานของศิลปินบ้าง เเละอาจเป็นโอกาสให้เราได้พูดอีกครั้งว่า โธ่เอ๋ย! อย่างงี้ชั้นก็เป็นศิลปินได้

เมืองไทยถ้าอยากดู ต้องลองไป search ดูใน youtube

วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

I wanna live like Salvador Dali

บ้านริมทะเลสาป

ห้องสมุดที่ Kitsch สุดในโลก

House with the to-die-for view

ด้านนอกของพิพิธภัณฑ์ Dali กำเเพงตกเเต่งด้วยรูปปั้นไข่ เเละขนมปังท้องถิ่น

งาน Sculpture ของ Dali ด้านในพิพิธภัณฑ์

ด้านในของพิพิธภัณฑ์ Dali ในตัวเมือง Figueres

รูปภาพเเละงานศิลปะของภรรยา Dali ที่เป็นเเรงบันดาลใจ ซึ่งมีติดอยู่ทั่วทั้งบ้าน

ห้องนอน

เคยมีคนตั้งคำถามว่าถ้าให้เลือกอยู่ที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ จะเลือกที่ไหน คำถามอันนี้ง่ายมาก ตอบได้โดยไม่ต้องคิด เเถมยังสามารถตอบเจาะจง ลงลึกพิกัดให้ได้มากกว่าเเค่ชื่อประเทศ จังหวัด หรืออำเภอด้วย คำตอบเราคือ อยากอยู่บ้าน ซาวาดอร์ ดาลี (Salvador Dali) ศิลปินเเนว Surrealist ชาวสเปน ที่มีเเรงบันดาลใจจากภาพที่เห็นในความฝัน หรือเวลาที่นอนไม่พอ เเล้วเริ่มเห็นภาพหลอนในหัว

เหตุผลจริงๆที่อยากอยู่บ้าน Dali ก็คือ ความอิจฉานั่นเอง อิจฉาที่ Dali เป็นคนที่มีความ Passionate สูง ไม่ว่ากับเรื่องความรักที่มีต่อภรรยา (รักเเล้วเเสดงออกเเบบสุดๆ) จนกลายมาเป็นเเรงบันดาลใจให้กับงานศิลปะหลายๆ ชิ้น หรือเเม้เเต่ความมั่นใจเเละกล้าที่จะทดลองทำงานศิลปะเเบบใหม่ๆ ที่สมัยก่อนคนยังไม่ยอมรับ เเต่ก็ยังทำ จนสามารถสร้างทฤษฎีทางศิลปะเเบบใหม่ได้

นับเป็นความโชคดีมากที่เมื่อสี่ปีที่เเล้ว ได้มีโอกาสเดินทางไปเมืองฟิเกอเรส (Figuerer) ในประเทศสเปน โดยก่อนหน้านี้เราไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับเมืองเล็กๆเมืองนี้ เเละไม่รู้จัก Salvador Dali ด้วยซำ้

บ้าน Dali เต็มไปด้วย character ของศิลปิน ที่ Kitsch หรูหรา ฉูดฉาด ดีไซน์ของใช้เเละเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูจะล้นเเละเกิน เหมือนจะเข้ากันไม่ได้ เเรงบันดาลใจของบ้านหลังนี้ สร้างจากความรักที่มีให้ต่อภรรยาของ Dali บ้านที่เเปลกประหลาดหลังนี้ ตั้งอยู่ในบนภูเขาใกล้ ทะเล Mediterranian ที่เงียบ ห่างไกลจากทุกอย่าง เเต่สวยจนพูดไม่ออก หลังจากได้ขับรถออกจากบ้าน เเละ พิพิธภัณฑ์ Dali เเล้ว เราประทับใจจนไม่สามารถลบภาพที่เห็นในหัวออกได้เลย ไม่เเปลกใจเลยที่ Dali กลายเป็นศิลปินที่โด่งดัง เเละมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกคนนึง ก็บ้านพี่เค้าเจ๋งออกซะขนาดนี้

ภาพทั้งหมดโดย Christopher Wise

Turner Prize 2009

ภาพโดย guardian.co.uk

เมื่อคืนนี้ พิพิธภัณฑ์ Tate Britain ลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร ประกาศรางวัล Turner Prize 2009 ซึ่งเป็นรางวัลศิลปะร่วมประจำปีอันทรงเกียรติ ที่ทำให้ศิลปินที่ชนะรางวัลนี้ นอกจากจะได้รางวัลเป็นเงินสด £25,000 (ประมาณ 1,3600,000 บาท) เเล้ว มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุเเตก (น่าอิจฉามาก ดูพิธีประกาศรางวัล Turner Prize ที่ยิ่งใหญ่ประมาณน้องๆ Oscar เเล้วทำให้คิดถึงศิลปินไทยที่น่าสงสารบ้านเราจังเลย)

คณะกรรมการเลือกศิลปินจากทั่วโลก โดยเเต่ละปี Turner Prize ได้กลายเป็นกิจกรรมศิลปะร่วมสมัยที่ทั่วโลกวิพากษ์ วิจารณ์ ถึงหลักการพิจารณามาตลอด ก็ศิลปะเค้ามีไว้วิจารณ์นี่เนอะ

สำหรับผู้ชนะปีนี้คือ Richard Wright ศิลปินชาวสก๊อตเเลนด์ กับงาน Site Specific ไม่มีชื่อ ขนาดใหญ่ เป็นงานที่ทำด้วยวิธีการง่ายๆ ตัด เจาะกระดาษ เเล้วเอาไปเเปะลงบนกำเเพงในห้องพิพิธภัณฑ์ เเล้วจึงลงสีกระดาษทองทับอีกที งานง่ายๆ เเต่มีความงดงามทางศิลปะ เเละทำอย่างมีหลักการ

คอนเซ็ปต์หลักๆ คือการชี้ให้เห็นถึงช่วงเวลาของการมีตัวตน ซึ่งก็เหมือนกับตัวงานนี้ ที่ไม่ว่าจะดูยิ่งใหญ่ สวยงาม หรือชนะรางวัลสูงสุดมาเเล้ว ในท้ายที่สุด งานก็จะถูกทาสีทับทิ้งไป หลังจากการเเสดงนิทรรศการ Turner Prize จบลง เดือนมกราคม ปีหน้า

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

นิทรรศการ Twist & Shout สุก-ดิบ อาทิตย์อุไทย



นิทรรศการ Twist & Shout สุก-ดิบ อาทิตย์อุไทย

อยากชวนทุกคนให้ไปดูงานศิลปะเจ๋งๆ ที่นานน้านที คนกรุงเทพฯ จะได้มีโอกาสได้ดูกัน นิทรรศการนี้ เป็นผลงานจากศิลปินประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 17 คน ผลงานศิลปะร่วมสมัยที่มีอิทธิพลมาจาก Pop Culture เเละ Anime ในประเทศญี่ปุ่นที่มาโด่งดังเเละมีอิทธิพลอย่างมากในเมืองไทย

หากใครเดินเล่นอยู่เเถวสยาม เราขอเเนะนำว่าควรเเวะเข้าไปดูนิทรรศการนี้ซะหน่อย งานดีๆ เเบบนี้ ไม่ได้มีให้ดูกันบ่อยๆ นะจ๊ะ ผู้ใหญ่ดูได้ เด็กดูยิ่งดี

เเสดงอยู่ที่ หอศิลป์กรุงเทพฯ จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2009

ข้อมูลเพื่มเติม: www.bacc.or.th