WTF!?!

นิทรรศการผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินกลุ่ม 13 คน นำเสนอผลงานภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ชื่อว่า Wonderful Thai Friendship ไปดูได้ที่ Cafe & Gallery เปิดใหม่ WTF อยู่เเถวสุขุมวิท 51

ข้อมูลเพิ่มเติม wtfbangkok.com

Burma VJ

Burma VJ เป็นภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับกลุ่มนักข่าวเเละช่างภาพในประเทศพม่าที่ได้ถ่ายภาพคลิปวีดีโอเหตุการณ์ประท้วงลุกฮือของพระสงฆ์เเละประชาชน ที่ต้องการล้มล้างอำนาจเด็ดขาดของรัฐบาลทหาร ซึ่งได้ปกครองผูกขาด เเละปิดประเทศมาอย่างยาวนาน ประชาชนอยู่อย่างหวาดกลัว ขาดสิทธิเสรีภาพในการเเสดงออก สื่อไม่สามารถนำเสนอข่าว วิเคราะห์วิจารณ์ รัฐบาลได้

การประท้วงดังกล่าวในปี 2007 ได้กลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของประเทศพม่า เนื่องจากนักข่าวเเละช่างภาพกลุ่มนี้ได้ทำการลักลอบภาพคลิปวีดีโอส่งไปยังทั่วโลก ซึ่งเป็นการกระทำที่กล้าหาญ เเละเป็นอันตรายต่อชีวิตอย่างยิ่ง

ถึงเเม้ว่าการประท้วงจะจบลงด้วยความรุนเเรง เเละชัยชนะของรัฐบาลอีกครั้ง เเต่เหตุการณ์ดังกล่าวยังคงเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ที่กล้าหาญเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งเป็นพื้นฐานอันสำคัญที่สุดของการเป็นมนุษย์

Burma VJ เข้าชิงออสการ์ปีที่ผ่านมาในสาขา Best Documentary เราทราบมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะได้มาลงโรงให้คนไทยได้ดูเร็วๆนี้ เสื้อเเดง เสี้อเหลือง เสื้อชมพู ช่วยมาดูกันหน่อยจ้า เพื่อจะทำให้คิดว่าไอ้ที่มาประท้วงกันได้ ประท้วงกันดีเนี่ย เพื่ออะไรกันเเน่

Art and Gene Kasidit

Name

Gene Kasidit

Occupation

Singer/Song Writer

What did you want to be when you grow up?

Art

Which artist would like to date with the most? Where would you take him/her to?

Coco Chanel. I'd take her out on the gondola and just get high.

Contemporary art is…..?

Skeptical.

Give us a tip on what to talk to the artist at the opening when you have no clue about the art works.

Better keep your mouth shut and try to appreciate for what it is.

What is the best art you’ve ever seen? Where did you see it?

Every little thing around me is arty.

What is the most uncool things about artist?

Either overrated or underrated.

Which public space in Bangkok would you like to see an art the most?

Traffic jam in front of Central World at the peak hour. The art should be floating above the traffic.

Have you ever felt totally inspired by any artist or his/her works? Who?

Steven Klein always inspires me about beauty, oddity and lust.

First thing you would do if you were a Thai Minister of Culture?

I'd kill myself.

Check out Gene Kasidit's latest MV - Take a Chance, directed by Kornkrit Jianpinidnan and Santiphap Inkong-ngam

His final show - The last McQueen collection

คอลเล็คชั่นสุดท้ายของ Alexander McQueen ได้มีการเปิดตัวใน Paris Fashion Week เมื่อวานนี้ ให้กับ fashion editors ที่ได้รับเชิญจำนวนหนึ่งเท่านั้น งานนี้ไม่ได้เป็นเเค่เพียง fashion show ธรรมดา เเต่ยังเป็นงานระลึกถึงการจากไปของดีไซน์เนอร์ที่เป็นเเรงบันดาลใจให้กับทั้งคนในวงการเเฟชั่น เเละวงการศิลปะอย่างมากมาย

คอลเล็คชั่นสุดท้ายของ McQueen ได้รับมีกลิ่นอายของศิลปะเเบบ Byzantine, ความอ่อนไหว สะเทือนอารมณ์, ความอมตะ, เเละนางฟ้า สวยสะเทือนใจจริงๆ

ข้อมูล เเละภาพภ่าย จาก www.guardian.co.uk

Light Graffiti

ภาพทั้งหมดโดย Ben Matthews ผ่าน environmentalgraffiti.com

Ben Matthews หมอฟันจากเมือง Surrey ประเทศอังกฤษ สนใจภาพถ่ายที่ใช้เทคนิค Long Exposure จนสามารถวาดเเสงใส่ลงไปในภาพถ่าย กลายเป็นงานศิลปะ graffiti site specific โดยใช้เเสงวาดภาพตามสถานที่สาธารณะเเทนสเปรย์กระป๋องสี ดูเเล้วสวยไปอีกเเบบ เเถมไม่ผิดกฎหมายด้วย

logorama

ภาพทั้งหมดจาก logorama-themovie.com

เรามีภาพสวยๆ จากหนังสั้น animation เรื่อง Logorama จากกลุ่ม H5 คนทำหนังชาวฝรั่งเศษที่สร้างชื่อเสียงจากการกำกับมิวสิควีดีโอของ Super Ferry Animals หรือ Alex Gopher เเละศิลปินเปรี้ยวๆอีกหลายกลุ่ม โดยหนัง animation เรื่องนี้ที่ได้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์มาเเล้วทั่วโลก เเละชนะรางวัล The Kodax Prix จากเทศกาลภาพยนตร์ Canne ปีล่าสุดนี้

Logorama เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลโก้ของสินค้ายี่ห้อต่างๆ ที่มีอยู่เยอะจนล้นโลก ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเจอเเต่โลโก้ ทั้งตีกราบ้านช่อง ล้วนสร้างขึ้นเป็นเเบบโลโก้สินค้าหรือเเบรนด์ยี่ห้อต่างๆ ซึ่งเป็นการเเสดงให้เห็นถึงการสร้างสรรหรือจินตนาการ fantasy ของมนุษย์ที่สามารถทำลายเหตุผลทางความคิดได้ (ฟังดูคล้ายๆเวลาไปผับที่จัด event เเถวๆบ้านเรา)

ล่าสุด Logorama ได้เข้าชิงออสการ์ปี 2510 นี้ เเข่งกับหนังการ์ตูนสุดฮิตอย่างเรื่อง Wallet and Gomit: A Matter of Loaf and Death

Sold Out!

ภาพจาก kingsofconvenience.com

Kings of Convenience จะมาเปิดการเเสดงที่กรุงเทพ วันที่ 23 มีนาคม 2553 ที่ Butter Butter เเถวๆรัชดา วงดนตรีจากนอร์เวย์วงนี้ ไม่ใช้วงดังมากมายในบ้านเรา PR ก็ไม่ได้เยอะอะไร เเต่เพลงฟังง่าย (เเต่ไม่ง่ายเท่า Michael Learns To Rock) ซึ่ง venue ขนาด 1,000-2,000 ก็น่าจะทำให้เป็นคอนเสริ์ตที่น่ารักๆได้ สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ ตั๋วขายหมดเเล้ว ก่อนคอนเสริ์ตกว่า 1 เดือน ขายหมดเกลี้ยงจริงๆ ไม่ได้เอาไปเเจกฟรีด้วย ล่าสุดผู้จัดต้องย้ายสถานที่จัดคอนเสริ์ตไปที่ Moonstar Studio เพื่อเพิ่มที่นั่งสำหรับคนดู ดูรายระเอียดซื้อบัตรได้ที่ Thai Ticket Master

อยากจะบอกคนจัด หรือคนที่เคยอยากเอาวงดีๆมาเเสดงในเมืองไทยเเต่กลังเจ๊งว่า จริงๆเเล้วตลาดคนดูเมืองไทยไม่ได้เล็กอย่างที่คิด ยังมีคนไทยหลายคนที่พร้อมเปิดรับสื่งใหม่ๆ เเละยังอยากที่จะเสพศิลปะ หรือการเเสดงที่ดีๆ หาดูยากๆ เราไม่ได้ใจเเคบขนาดนั้น เพราะฉนั้น ช่วยกันเอามาให้ดูกันอีกเถอะนะค่ะ เหมือนสมัยยุค 90s ก่อนที่เราได้ดูวงเท่ๆอย่าง Bjork หรือ Rolling Stones หรือวง Brit Pop น่ารักๆทั้งหลาย เอาเข้ามาเเล้วเราสัญญาว่าจะตามไปดูค่ะ

ป.ล. สำหรับเเฟนตัวจรืงของ Kings of Convenience ขอเเนะนำให้ลองหาฟัง Arthur Russell ดู เเนวเพลงคล้ายๆกัน เเต่มีความเป็นกวีในเนื้อร้องมากกว่า Arthur Russell เสียชีวิตไปหลายปีเเล้ว เเต่ดนตรีของเขายังเป็นที่จดจำสำหรับกลุ่มเเฟนเล็กๆจนถึงทุกวันนี้

Ron Mueck Exhibits Realistic Human Sculptures in Melbourne

"Still Life"

ภาพโดย GETTY IMAGES

"Wild Man"

ภาพโดย GETTY IMAGES

'Man in a Boat'

ภาพโดย EPA

ภาพโดย EPA

"In Bed"

ภาพโดย GETTY IMAGES

'Mother and Child'

ภาพโดย AFP/GETTY IMAGES

"Mask II"

ภาพโดย EPA

ภาพโดย EPA

"Woman with Sticks"

ภาพโดย EPA

"Dead Dad"

ภาพโดย EPA

ภาพโดย GETTY IMAGES

Ron Mueck ศิลปินประติมากรรม ชาวออสเตรเลียที่ย้ายไปตั้งรกรากจนโด่งดังที่ประเทศอังกฤษ มีงานเเสดงนิทรรศการเดี่ยว ประติมากรรม เหมือนมนุษย์จริง (มากๆ) ที่ไม่ว่าจะดูจากมุมไหนก็ perfect ไปหมด

เช่นเคย คนไทยอดดู ถ้ามีตังค์ มีเวลา ก็ซื้อตั๋วเครื่องบิน บินไปดูได้ที่ National Gallery of Victory ที่เมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย มีให้ดูถึงวันที่ 18 เม.ย. 2553

Sneak Preview - Half Truth Exhibition By Sutee Kunavichayanont

เเอบเอาภาพถ่ายผลงานศิลปะ นิทรรศการที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง โดยศิลปินร่วมสมัยชั้นยอดของเมืองไทยที่มีนิทรรศการดีๆออกมาให้คนรัก หรือไม่รักศิลปะได้พูดถึงทุกครั้งไป สุธี คุณาวิชยานนท์ ในหัวข้อชื่อว่า “ครึ่งหนึ่งของความจริง”

พบกับผลงานศิลปะ 14 ชิ้น ที่เกิดจากการผสมผสานสื่อ อาทิ เเผ่นโลหะตัดด้วยเลเซอร์, ประติมากรรมเรซิ่น, จิตรกรรมที่ทำจากไฟนีออน เเละทองคำเปลว ในการแสดงเดี่ยวครั้งนี้ สุธีได้วิพากษ์วิจารณ์ความเป็นไทยในท่วงทำนองแบบทีเล่นทีจริง โดยการนำเอาภาพลักษณ์และสิ่งต่างๆ ทั้งจากศิลปะแนวประเพณีอย่างจิตรกรรมไทยอันแสนอ่อนช้อย และงานออกแบบจากพ็อพคัลเจอร์รากหญ้าอย่างแม่ไม้มวยไทยมานำเสนอเชิงตั้งคำถามกับชีวิตและศิลปวัฒนธรรมในประเด็นที่ว่า

“หากสิ่งใดมีความจริงอยู่เพียงครึ่งหนึ่ง แล้วอีกครึ่งจะเป็นอะไร?

ความจริงครึ่งหนึ่ง แท้จริงแล้วก็คือครึ่งหนึ่งของความลวง?

หากความจริงถูกแบ่งครึ่ง ครึ่งหนึ่งคือจริงแท้ อีกครึ่งคือความจริงเทียม?”

เปิดงานแสดงนิทรรศการ “ครึ่งหนึ่งของความจริง” 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 18.00 น. ที่ เมทบาร์ โรงแรมเมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ โทร 02 625 3333 จนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 ก่อนจะนำผลงานศิลปะชุดนี้ไปแสดงต่อที่ แกลเลอเรีย 346 (Galeria 346) ภูเก็ต ตั้งเเต่ 9 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2553